ชาร์จไปเล่นไป...ทำร้ายมือถือแค่ไหน? (ความจริงที่คนติดเกมต้องรู้!)
"อีกนิดเดียวจะชนะแล้ว...อ้าว! แบตเหลือ 5%!" เชื่อว่านี่คือสถานการณ์สุดคลาสสิกที่ชาวเกมเมอร์มือถือ หรือแม้แต่คนที่ชอบดูซีรีส์มาราธอนต้องเจอเป็นประจำ! แล้วทางออกของเราคืออะไรล่ะ? ก็ "เสียบสายชาร์จเล่นต่อไปเลยสิ!" ใช่ไหมครับ?มันเป็นทางออกที่ดูเหมือนจะง่ายและดีที่สุดในตอนนั้น แต่ลึกๆ ในใจก็แอบมีคำถามว่า... "ทำแบบนี้มันจะดีเหรอ?" "เคยได้ยินว่าไม่ดี แต่ก็ไม่รู้ว่ามัน 'ทำร้าย' มือถือเราจริงๆ แค่ไหน?" "แล้วถ้าไม่ทำแบบนี้จะให้ทำยังไงล่ะ!?"
ไม่ต้องกังวลไปครับ! ในฐานะ คนที่รักการเล่นเกมบนมือถือ และก็รักมือถือของตัวเองมากเหมือนกัน วันนี้เราจะมา "ไขความจริง" แบบหมดเปลือก สไตล์เพื่อนคุยกันเลยว่า พฤติกรรม "ชาร์จไปเล่นไป" เนี่ย มันทำร้ายมือถือสุดที่รักของเราจริงไหม? แล้วถ้าจำเป็นต้องทำจริงๆ จะมีวิธีไหนช่วย "ลดความเสียหาย" ได้บ้าง? ด้วยข้อมูลที่ น่าเชื่อถือ และเข้าใจง่ายที่สุดครับ!
"ร้อน x2"! เบื้องหลังหายนะของแบตเตอรี่
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า "ศัตรูตัวร้ายที่สุด" ของแบตเตอรี่มือถือ (ที่เป็นลิเธียมไอออน) ก็คือ "ความร้อน" ครับ! แล้วการ "ชาร์จไปเล่นไป" มันสร้างความร้อนแบบคูณสองได้ยังไง?
1.ความร้อนจากการ "ชาร์จ": เวลาเราชาร์จแบตฯ มันมีการแปลงพลังงานไฟฟ้า ซึ่งจะเกิดความร้อนขึ้นเป็นปกติอยู่แล้ว ยิ่งใช้ "ชาร์จเร็ว" วัตต์สูงๆ ก็ยิ่งร้อนขึ้น
2.ความร้อนจากการ "เล่น": เวลาเราเล่นเกมกราฟิกสวยๆ หรือใช้งานเครื่องหนักๆ ชิปประมวลผล (CPU/GPU) ในมือถือเราจะทำงานเหมือนวิ่งมาราธอน มันก็ปล่อยความร้อนออกมามหาศาล เหมือนกัน
ทีนี้...พอเราทำสองอย่างพร้อมกัน มันเลยเหมือน "เปิดเตาอบ" ที่มีมือถือเราอยู่ข้างใน! ความร้อนจากการชาร์จ + ความร้อนจากการเล่นเกม มันรวมพลังกันจน "ร้อนจี๋" และระบบระบายความร้อนของมือถือก็ทำงานหนักจนระบายออกไม่ทัน!
ผลกระทบ "ระยะยาว" ที่น่ากลัวกว่าที่คิด
การปล่อยให้มือถือร้อนจัดจากการชาร์จไปเล่นไปบ่อยๆ จะส่งผลเสียร้ายแรงกว่าแค่เรื่อง "เครื่องร้อน" นะครับ:
1."แบตเสื่อม" เร็วมาก!
นี่คือผลกระทบที่ชัดเจนและเจ็บปวดที่สุด! ความร้อนสูงๆ จะไป "ทำลายเซลล์แบตเตอรี่ลิเธียมอย่างถาวร" ทำให้ความสามารถในการเก็บประจุ ลดลงฮวบฮาบ!
(เปรียบเทียบง่ายๆ): เหมือนเราเอายางรถยนต์ไปจอดตากแดดเปรี้ยงๆ ทุกวัน...ไม่นานยางมันก็กรอบและเสื่อมเร็วกว่าปกติไงล่ะครับ! มือถือที่เคยใช้ได้ทั้งวัน อาจจะเหลือแค่ครึ่งวัน หรือไม่กี่ชั่วโมงก็แบตหมดแล้ว
"เล่นไปชาร์จไป" แค่ไม่กี่เดือน อาจจะทำให้สุขภาพแบตฯ ลดลงไป 5-10% ได้เลยนะ!
2. "เกมกระตุก" เฟรมเรตตก
(อาการที่เกมเมอร์เกลียดที่สุด!) มือถือมันฉลาดนะครับ! พอเครื่องร้อนเกินไปจนถึงจุดอันตราย มันจะ "ลดความเร็ว" ของ CPU/GPU ลงโดยอัตโนมัติ เพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้พังเสียหาย
ผลคือ?: เกมที่เคยเล่นลื่นๆ เฟรมเรตนิ่งๆ ก็จะเริ่ม "กระตุก", "หน่วง", หรือ "เฟรมเรตตก" อย่างน่าหงุดหงิด! ทำให้เราเล่นเกมได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
3.. (อาจจะ) ทำร้าย "อุปกรณ์อื่น" ในเครื่อง
ความร้อนที่สะสมเป็นเวลานาน ไม่ได้ส่งผลดีต่อชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ บนเมนบอร์ดเลย อาจจะทำให้อายุการใช้งานโดยรวมของเครื่องสั้นลงได้
แล้วจะทำยังไงดีล่ะ? (ทางออกและวิธีลดความเสียหาย)
ทางที่ดีที่สุด :
"พักเล่นก่อน แล้วชาร์จให้เต็ม" หรือ "ชาร์จให้ได้สักพักใหญ่ๆ (เช่น 50-60%) แล้วค่อยถอดมาเล่น" วิธีนี้ดีต่อสุขภาพแบตฯ ที่สุดครับ
แต่ถ้า "จำเป็น" ต้องเล่นไปชาร์จไปจริงๆ (เช่น กำลังแข่งแมตช์สำคัญ!) ลองใช้วิธี "ลดความเสียหาย" เหล่านี้ดูครับ:
1. หนีไปเล่นในที่ "เย็นๆ"! ️:
เล่นใน "ห้องแอร์" เลยครับ! ช่วยระบายความร้อนได้ดีที่สุด
หรืออย่างน้อยก็หาพัดลมมาเป่าที่หลังเครื่องก็ยังดี
2. "ถอดเคส" ด่วน!:
เคสมือถือ (โดยเฉพาะเคสหนาๆ) มันเหมือนเสื้อกันหนาวดีๆ นี่เอง ถอดออกซะ จะช่วยให้เครื่องระบายความร้อนได้ดีขึ้นเยอะมาก
3. ลด "กราฟิก" ในเกมลง :
ปรับการตั้งค่ากราฟิกในเกมให้ต่ำลงหน่อย (เช่น ปรับจาก Ultra เป็น High หรือ Medium) จะช่วยลดภาระของ CPU/GPU ทำให้เครื่องร้อนน้อยลง
4. ใช้ "พัดลมระบายความร้อนมือถือ" (Phone Cooler):
สำหรับสายเกมเมอร์ตัวจริง การลงทุนกับพัดลมระบายความร้อนที่หนีบหลังมือถือ คือตัวช่วยที่ดีมากครับ ช่วยลดอุณหภูมิได้จริง
5. (ทางเลือก) ใช้ "หัวชาร์จวัตต์ต่ำลง" ชั่วคราว:
ถ้าปกติใช้หัวชาร์จเร็ว 65W แล้วเครื่องร้อนจัด ลองเปลี่ยนมาใช้หัวชาร์จธรรมดา 10W-18W แทนดูครับ มันจะชาร์จช้าลง แต่ความร้อนที่เกิดจากการชาร์จก็จะน้อยลงไปด้วย
6. สำหรับสายฮาร์ดคอร์:
มือถือเกมมิ่ง บางรุ่น มีฟีเจอร์เทพที่เรียกว่า "Bypass Charging" หรือ "Charge Separation" คือมันจะ "จ่ายไฟตรงเข้าเครื่องโดยไม่ผ่านแบตเตอรี่" ในขณะที่เราเล่นเกม! ทำให้แบตเตอรี่ไม่ร้อนเลย! ถ้าใครเป็นเกมเมอร์ตัวจริงและกำลังจะซื้อมือถือใหม่ ลองมองหาฟีเจอร์นี้ดูครับ
บทสรุป: เล่นให้สนุก...แต่ก็ต้อง "รัก" มือถือของเราด้วยนะ! ️
การ "ชาร์จไปเล่นไป" อาจจะไม่ได้ทำให้มือถือของคุณ "ระเบิด" ทันที (ถ้าใช้อุปกรณ์ชาร์จที่ได้มาตรฐาน) แต่มันคือการ "บั่นทอนอายุการใช้งานแบตเตอรี่" อย่างช้าๆ แต่มั่นคง และยังทำให้ "ประสบการณ์การเล่นเกมของคุณแย่ลง" เพราะเครื่องร้อนจนกระตุก
ดังนั้น ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ พยายามหลีกเลี่ยงพฤติกรรมนี้นะครับ ชาร์จแบตฯ ให้พร้อมก่อนลุยแมตช์สำคัญ หรือถ้าจำเป็นต้องชาร์จระหว่างเล่น ก็ลองใช้วิธีลดความร้อนที่เราแนะนำไป
เล่นให้สนุก แต่ก็พักให้เครื่องได้พักบ้างนะครับเพื่อนๆ! แล้วแกดเจ็ตสุดรักของเราจะอยู่กับเราไปได้อีกนานเลย!
