แชร์

วิธีแก้ปัญหา "อุปกรณ์เสริมนี้อาจไม่รองรับ" บน iPhone แก้ยังไง?

อัพเดทล่าสุด: 6 มิ.ย. 2025
52 ผู้เข้าชม

กำลังจะชาร์จแบตฯ ที่เหลือร่อแร่เต็มที เสียบสายเข้าไปปุ๊บ...หน้าจอดันขึ้นข้อความสุดสะพรึงว่า "อุปกรณ์เสริมนี้อาจไม่รองรับ" อ้าว! งานเข้า! ชาร์จก็ไม่เข้า แถมยังขึ้นมาเตือนให้หัวร้อนอีก! เชื่อว่าชาว iPhone เกือบทุกคนต้องเคยเจอโมเมนต์น่าหงุดหงิดแบบนี้มาบ้างใช่ไหมครับ?

"ทำไมเมื่อวานยังใช้ได้อยู่เลย?" "สายก็เพิ่งซื้อมาใหม่นะ!" "เครื่องฉันจะพังรึเปล่า?" ใจเย็นๆ ก่อนครับเพื่อนๆ! ในฐานะ คนที่คลุกคลีกับสารพัดปัญหาของ iPhone  และเข้าใจความรู้สึกนี้ดี วันนี้เราจะมาเป็น "เพื่อนซี้" ช่วยคุณ "ไล่เช็ค" หาสาเหตุ และ "แก้ปัญหา" นี้แบบสเต็ปบายสเต็ป ด้วยภาษาง่ายที่สุด รับรองว่า ข้อมูลถูกต้อง เชื่อถือได้ และหลายครั้งก็แก้ได้เองแบบไม่ต้องเสียเงินสักบาทเลย!

ทำไมข้อความนี้ถึง "ขึ้นมาหลอกหลอน"?

ส่วนใหญ่แล้ว ปัญหานี้เกิดจาก "การสื่อสาร" ระหว่างไอโฟนกับอุปกรณ์เสริม (ส่วนใหญ่คือสายชาร์จ) มัน "คุยกันไม่รู้เรื่อง" ครับ สาเหตุก็มาจาก

สายชาร์จ "ไม่ได้มาตรฐาน" หรือ "ของปลอม" (จำเลยอันดับหนึ่ง!):

  • ชิป MFi คือหัวใจ: ในสาย Lightning ของแท้ หรือที่ได้มาตรฐาน "MFi Certified" (Made for iPhone/iPad/iPod) มันจะมี "ชิปอัจฉริยะ" เล็กๆ ฝังอยู่ เหมือนเป็น "บัตรประชาชน" ที่ Apple ออกให้
  • สายปลอม/ของถูก: จะไม่มีชิปนี้ หรือใช้ชิปปลอมที่ทำเลียนแบบ พอ iOS (ระบบปฏิบัติการของไอโฟน) ตรวจเจอว่า "เอ๊ะ! ใครเนี่ย ไม่มีบัตรประชาชน" มันก็จะตัดการเชื่อมต่อทันทีเพื่อความปลอดภัย! (โดยเฉพาะหลังอัปเดต iOS ใหม่ๆ มักจะเจออาการนี้บ่อยขึ้น เพราะ Apple อัปเดตระบบตรวจจับ)
  • สายชาร์จ "พัง" หรือ "ชำรุด": สายขาดใน, หัว Lightning สกปรก/มีรอยไหม้, หรือคอสายหักงอ
  • "รูชาร์จ" ที่ไอโฟนสกปรก: (ตัวการที่คนมองข้าม!) ฝุ่น, ขนจากกระเป๋ากางเกง อัดแน่นอยู่ในรู ทำให้เสียบสายไม่สุด
  • "iOS" รวนชั่วคราว: บางทีซอฟต์แวร์มันก็แค่เอ๋อๆ
  • หัวชาร์จ (Adapter) หรือแหล่งจ่ายไฟมีปัญหา: จ่ายไฟไม่นิ่ง

ปฏิบัติการ "กู้ชีพ" ไอโฟน: ลองแก้ตามนี้ทีละสเต็ป! (ง่ายๆ ก่อนนะ!)

ใจเย็นๆ แล้วไล่ทำทีละข้อนะครับ ถ้าข้อไหนทำแล้วหาย ก็ไม่ต้องทำข้อต่อไป!

1. "ถอด...แล้วเสียบใหม่" (วิธีเบสิกสุด แต่บางทีก็เวิร์ค!)

ดึงสายชาร์จออกจากไอโฟน แล้วเสียบกลับเข้าไปใหม่ช้าๆ ชัดๆ บางทีมันอาจจะแค่หลวม หรือระบบรวนชั่วคราว

2. "พลิกด้าน" สาย Lightning (ทริคที่ไม่ลับ แต่ได้ผล!)

ลองดึงสายออก แล้ว "พลิกอีกด้าน" ของหัว Lightning เสียบเข้าไปใหม่  พิน (ขั้วทองแดง) ของแต่ละด้านมันทำงานแยกกัน บางทีด้านหนึ่งอาจจะสกปรกหรือมีปัญหาเล็กน้อย อีกด้านอาจจะยังใช้งานได้

3. "เช็คสายชาร์จ" (ผู้ต้องสงสัยอันดับ 1!)
ดูด้วยตา: สายมีรอยขาด, หัก, งอ, เปื่อย หรือหัวต่อดูเบี้ยวๆ ไหม?
ทำความสะอาดหัว Lightning: ใช้ผ้าแห้งสะอาด เช็ดเบาๆ ที่ขั้วทองแดง
"ลองเปลี่ยนสายเส้นอื่น!" (สำคัญที่สุด): เอา สายเส้นอื่นที่มั่นใจว่าเป็นของแท้ หรือมีสัญลักษณ์ MFi มาลองเสียบแทน ถ้าเส้นใหม่ใช้ได้ปกติ ชาร์จเข้า...ก็ชัดเลยครับ! โยนสายเส้นเก่าทิ้งไปได้เลย ปัญหาอยู่ที่สายชัวร์!


4. "ส่องรูชาร์จ" ที่ไอโฟน (ตัวการที่คนเจอบ่อยสุดๆ!)
ฝุ่นเพียบแน่นอน! เอาไฟฉายส่องดูในรูเสียบ Lightning ที่ตัวไอโฟนดีๆ ครับ คุณอาจจะตกใจว่ามี "ขุยผ้า" จากกระเป๋ากางเกงอัดแน่นอยู่ข้างใน! ทำให้เสียบสายเข้าไปไม่สุด


วิธีทำความสะอาด (ต้องเบามือสุดๆ นะครับ!):

  • ดีที่สุด: ใช้ ลมเป่าแรงๆ (ที่เป่าลมทำความสะอาดกล้อง/คีย์บอร์ด) เป่าไล่ฝุ่นออก
  • ไม้ตาย: ใช้ "ไม้จิ้มฟันไม้" หรือ "พลาสติกแข็งบางๆ" (ห้าม! ใช้โลหะเด็ดขาด!) ค่อยๆ เขี่ย เศษฝุ่นและขุยผ้าที่ติดอยู่ออกมา อย่างเบามือที่สุด ระวังอย่าไปขูดโดนพินทองแดงข้างในนะครับ! 5. "รีสตาร์ท" ไอโฟน (ล้างบางซอฟต์แวร์ที่กำลังรวน)
  • รีสตาร์ทธรรมดา: กดปุ่ม Power ค้างไว้ แล้วเลื่อนเพื่อปิดเครื่อง รอสักพักแล้วเปิดใหม่
  • บังคับรีสตาร์ท (Force Restart): ถ้าเครื่องค้างหรือไม่ตอบสนอง ให้ทำตามนี้ (ไม่ลบข้อมูลนะ!):
    iPhone 8 ขึ้นไป (ไม่มีปุ่มโฮม): กดปุ่ม เพิ่มเสียง 1 ที (ปล่อย) -> กดปุ่ม ลดเสียง 1 ที (ปล่อย) -> กด ปุ่ม Power ด้านข้างค้างไว้ จนเห็นโลโก้ Apple
    iPhone 7: กด ปุ่ม Power ด้านข้าง + ปุ่มลดเสียง ค้างไว้พร้อมกันจนเห็นโลโก้ Apple
    iPhone 6s/SE (รุ่น 1): กด ปุ่ม Power (ด้านบน/ข้าง) + ปุ่มโฮม ค้างไว้พร้อมกันจนเห็นโลโก้ Apple


6. "เช็คหัวชาร์จ & ปลั๊กไฟ"

ลองเปลี่ยน "หัวชาร์จ (Adapter)" อันอื่นที่มั่นใจว่าดี
ลองเปลี่ยน "ปลั๊กผนัง" ที่เสียบ


7. "อัปเดต iOS" ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด

บางที Bug บางอย่างก็ถูกแก้ไขใน iOS เวอร์ชันใหม่ๆ หรือบางที Apple ก็อัปเดตเพื่อบล็อกชิปสายปลอมรุ่นใหม่ๆ ได้ดีขึ้น ลองเข้าไปที่ Settings > General > Software Update ดูครับ (Authoritativeness)
ถ้าลองหมดแล้ว...ยังไม่หาย? (แสดงว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แล้ว)

ถ้าคุณลองทำทุกวิธีข้างต้น โดยเฉพาะการ "ลองเปลี่ยนสายชาร์จ MFi ที่ดีๆ" และ "ทำความสะอาดพอร์ต" แล้ว ยังคงขึ้นแจ้งเตือนเดิมอยู่ อาจเป็นสัญญาณของปัญหาฮาร์ดแวร์ครับ:

พอร์ต Lightning ที่ตัวไอโฟนอาจจะเสีย/หลวม
ชิปควบคุมการชาร์จ (U2/Tristar IC) บนเมนบอร์ดอาจจะมีปัญหา (มักเกิดจากการใช้สายปลอมหรือหัวชาร์จไม่ได้มาตรฐานบ่อยๆ)
แบตเตอรี่อาจจะเริ่มเสื่อมสภาพ
ในกรณีนี้ แนะนำให้นำเครื่องไปให้ "ผู้เชี่ยวชาญตัวจริง" ตรวจเช็คครับ:

ดีที่สุดและชัวร์ที่สุด: Apple Store หรือ ศูนย์บริการที่ได้รับการแต่งตั้งจาก Apple (AASP) เช่น iCare
บทสรุป: เลือก "ของดี มีมาตรฐาน" ปัญหาก็น้อยลงเยอะ!

อาการ "อุปกรณ์เสริมนี้อาจไม่รองรับ" ส่วนใหญ่แล้วมักจะจบลงที่ "สายชาร์จ" ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือเสื่อมสภาพ และ "พอร์ตชาร์จที่สกปรก"  การลองแก้ไขตามขั้นตอนง่ายๆ ที่เราแนะนำ มักจะช่วยแก้ปัญหาได้

แต่ทางที่ดีที่สุดคือการ "ป้องกัน" ครับ  การลงทุนกับ "สายชาร์จแท้" หรือ "สายที่ได้รับการรับรอง MFi" แม้จะราคาสูงกว่า แต่ก็เหมือนการซื้อ "ประกัน" ให้กับไอโฟนราคาหลายหมื่นของเรา มันทั้งปลอดภัย ชาร์จได้เต็มประสิทธิภาพ และไม่ต้องมานั่งหัวเสียกับข้อความแจ้งเตือนกวนใจแบบนี้อีกต่อไปครับ!

 


บทความที่เกี่ยวข้อง
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ