พาวเวอร์แบงค์ที่ไม่ได้ใช้นานมากแล้วควรเอากลับมาใช้ได้ไหม
"จัดบ้าน/รื้อลิ้นชักครั้งใหญ่ แล้วเจอพาวเวอร์แบงค์คู่ใจตัวเก่าที่ลืมไปแล้วว่ามีอยู่!" เชื่อว่าหลายคนต้องเคยเจอสถานการณ์แบบนี้ใช่ไหมครับ? วินาทีแรกอาจจะดีใจที่เจอ "ของฟรี" แต่คำถามต่อมาก็ผุดขึ้นในหัวทันที... "เอ๊ะ...มันยังใช้ได้อยู่ไหมนะ?" "ถ้าเอามาเสียบชาร์จเลย มันจะอันตรายรึเปล่า? จะระเบิดไหม!?"
ใจเย็นๆ ก่อนครับเพื่อนๆ! ในฐานะ คนที่คลุกคลีกับแกดเจ็ตพวกนี้ และเข้าใจ "นิสัย" ของแบตเตอรี่เป็นอย่างดี วันนี้เราจะมาเป็น "เพื่อนซี้" ช่วยคุณ "ตรวจสภาพ" และ "ปลุกชีพ" พาวเวอร์แบงค์เก่าเก็บกันแบบสเต็ปบายสเต็ป ด้วยข้อมูลที่ น่าเชื่อถือ และปลอดภัย ให้คุณตัดสินใจได้ว่าน้องพาวเวอร์แบงค์ตัวนี้จะ "ไปต่อ" หรือควร "พอแค่นี้" ครับ!
ทำไมการ "ทิ้งไว้นานๆ" ถึงไม่ดีต่อแบตเตอรี่?
ก่อนจะลงมือปลุกชีพ เรามาเข้าใจกันก่อนว่าทำไมการปล่อยพาวเวอร์แบงค์ทิ้งไว้นานๆ ถึงไม่ดี:
- แบตเตอรี่มัน "คายประจุเอง": ถึงแม้เราจะไม่ได้ใช้ แต่แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Li-ion) ที่อยู่ข้างใน มันจะค่อยๆ คลายพลังงานของตัวเองออกไปเรื่อยๆ ช้าๆ
- "หลับลึก" จนปลุกไม่ตื่น: ถ้าเราปล่อยให้มันคายประจุจนไฟหมดเกลี้ยง (0%) แล้วทิ้งไว้นานเป็นปีๆ เซลล์แบตเตอรี่ข้างในมันอาจจะ "เสียหาย" หรือ "เข้าสู่ภาวะหลับลึก" จนไม่สามารถรับการชาร์จใหม่ได้อีกเลย
ปฏิบัติการ "ปลุกชีพ" พาวเวอร์แบงค์เก่า!
ก่อนจะเสียบชาร์จ มาเป็น "คุณหมอ" ตรวจเช็คสภาพน้องพาวเวอร์แบงค์กันก่อนครับ:
Step 1: "สำรวจด้วยสายตา" (เช็คสภาพภายนอกก่อนเลย - สำคัญที่สุด!)
ดูว่า "บวม" ไหม?: นี่คือสัญญาณอันตรายที่สุด! ลองวางบนพื้นเรียบๆ ดูว่ามันโยกเยกไหม? ลองเอานิ้วกดเบาๆ ดู มัน "ป่อง" หรือ "นิ่มๆ" ผิดปกติหรือเปล่า?
ถ้า "บวม" แม้แต่นิดเดียว: "น้องได้ไปสู่สุขติแล้ว...อย่าเสี่ยงชุบชีวิตเด็ดขาด!" การที่แบตบวมแปลว่าสารเคมีข้างในมันสร้างแก๊สขึ้นมาแล้ว การฝืนชาร์จต่อไป เสี่ยงต่อการลัดวงจร ไฟไหม้ หรือระเบิดได้!
มีรอย "แตก" "ร้าว" หรือ "คราบของเหลว" ซึมออกมาไหม? ถ้ามี ก็ไม่ควรใช้ต่อครับ
มี "กลิ่นแปลกๆ" กลิ่นไหม้ หรือกลิ่นสารเคมีไหม? ถ้ามี ก็เป็นสัญญาณอันตราย
(ถ้าเจออาการเหล่านี้ข้อใดข้อหนึ่ง ให้ข้ามไปอ่านหัวข้อ "เมื่อไหร่ที่ควรบอกลา?" ได้เลยครับ อย่าพยายามชาร์จต่อเด็ดขาด!)
Step 2: "ทำความสะอาด" พอร์ตชาร์จ (เรื่องง่ายๆ ที่คนมองข้าม)
ถ้าสภาพภายนอกดูปกติ ให้ลองส่องดูที่ "รูเสียบชาร์จ" (Input Port) ของพาวเวอร์แบงค์ครับ บางทีอาจจะมีแค่ ฝุ่นหรือขุยผ้า อุดตันอยู่
วิธีทำความสะอาด: ใช้ ลมเป่าแรงๆ (ที่เป่าลมกล้อง) หรือแปรงเล็กๆ ขนนุ่มๆ ที่แห้ง ปัดออกเบาๆ (ห้ามใช้ของแหลมหรือโลหะแคะนะ!)
Step 3: ใช้ "คู่หูชาร์จ" ที่ไว้ใจได้ 100%
อย่าเพิ่งโทษพาวเวอร์แบงค์! บางทีปัญหาอาจจะอยู่ที่ "สายชาร์จ" หรือ "หัวชาร์จ" (Adapter) ที่เราใช้ก็ได้
ทำยังไง?: เอา "สายชาร์จ" และ "หัวชาร์จ" ชุดที่คุณ "มั่นใจว่ายังดีอยู่" (คือใช้ชาร์จมือถือหรืออุปกรณ์อื่นติดปกติ) มาใช้ในการปลุกชีพพาวเวอร์แบงค์เก่าของเราครับ จะได้ตัดผู้ต้องสงสัยไปได้ 2 ราย
Step 4: "เสียบชาร์จทิ้งไว้ยาวๆ" (กระตุ้นเซลล์แบตฯ ที่หลับลึก)
เมื่อมั่นใจว่าทุกอย่างโอเค (สภาพไม่บวม, พอร์ตสะอาด, ที่ชาร์จดี) ก็ถึงเวลาปลุกน้องแล้วครับ!
เสียบชาร์จทิ้งไว้เลย...อย่างน้อย 8-12 ชั่วโมง หรือจะเสียบข้ามคืนไปเลยก็ได้
ทำไมต้องนานขนาดนั้น?: เพราะถ้าแบตเตอรี่มันเข้าสู่ภาวะ "หลับลึก" วงจรชาร์จมันต้องใช้เวลานานหน่อยในการค่อยๆ "กระตุ้น" เซลล์แบตเตอรี่ทีละนิดๆ จนมัน "ตื่น" และเริ่มรับไฟได้ตามปกติ
ขณะที่ชาร์จทิ้งไว้นานๆ ควรวางพาวเวอร์แบงค์ไว้บน "พื้นที่ไม่ติดไฟ" เช่น พื้นกระเบื้อง, จานเซรามิก และ ห่างจากวัสดุติดไฟง่าย เช่น ผ้า, กระดาษ เผื่อไว้กรณีที่เกิดความร้อนสูงผิดปกติครับ
Step 5: สังเกต "สัญญาณชีพ"
ระหว่างที่ชาร์จ หรือหลังจากชาร์จไปได้สักพักใหญ่ๆ (เช่น 1-2 ชั่วโมง) ลองสังเกตดูว่า:
ไฟ LED บอกสถานะมันติด หรือกระพริบขึ้นมาบ้างไหม? ถ้ามีไฟติดขึ้นมา ถือเป็นสัญญาณที่ดีมากๆ!
ตัวเครื่อง "อุ่น" ขึ้นเล็กน้อยไหม? (อุ่นๆ ถือว่าปกติ) แต่ถ้ามัน "ร้อนจัด" จนผิดสังเกต ให้รีบถอดปลั๊กทันที!
ผลลัพธ์...น้องรอดหรือไม่รอด?
หลังจากชาร์จทิ้งไว้ครบกำหนดแล้ว มาดูกันครับ:
กรณีที่ 1: "น้องกลับมาแล้ว!"
ไฟ LED ติดครบ ชาร์จไฟเข้าจนเต็ม
สิ่งที่ต้องทำต่อ: ต้อง "ทดสอบ" ครับ! ลองเอาไปชาร์จมือถือดูว่ามันจ่ายไฟออกได้ปกติไหม? แล้วสังเกตว่า "ความจุ" มันลดลงไปเยอะหรือเปล่า? เช่น แต่ก่อนเคยชาร์จได้ 2 รอบเต็มๆ ตอนนี้อาจจะเหลือแค่รอบเดียวหรือครึ่งรอบ ถ้าเป็นแบบนี้ ก็ยังถือว่าใช้งานได้ครับ แต่ต้องยอมรับว่าแบตฯ มันเสื่อมไปตามกาลเวลาแล้ว
กรณีที่ 2: "นิ่งสนิท...ไร้การตอบสนอง"
ชาร์จทิ้งไว้ข้ามคืนแล้ว ไฟก็ยังไม่ติด ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย...แบบนี้แสดงว่าเซลล์แบตเตอรี่หรือวงจรชาร์จภายในน่าจะเสียหายถาวรไปแล้วครับ
กรณีที่ 3: "มีอาการน่าเป็นห่วง!"
ระหว่างที่พยายามชาร์จแล้วมัน ร้อนจัด, มีกลิ่นแปลกๆ, หรือเริ่มบวมป่องขึ้นมา -> หยุดทันที! ถอดปลั๊ก! อย่าฝืนต่อ!
- เมื่อไหร่ที่ควร "บอกลา" น้องพาวเวอร์แบงค์?
- บวม! (อันดับ 1 ที่ต้องทิ้งทันที ไม่ต้องเสียดาย!)
- ร้อนจัดผิดปกติ หรือมีกลิ่นไหม้
- ชาร์จทิ้งไว้ข้ามคืนก็ยังปลุกไม่ตื่น
- ชาร์จติด แต่เก็บไฟไม่อยู่เลย (เช่น ชาร์จเต็ม 100% วางไว้เฉยๆ ไม่ถึงวัน แบตหมดเกลี้ยง)
สภาพภายนอกแตกหักเสียหายรุนแรง - (วิธีทิ้ง): อย่าทิ้งรวมกับขยะทั่วไปนะครับ! มันคือ "ขยะอิเล็กทรอนิกส์อันตราย" (E-Waste) ควรนำไปทิ้งในจุดรับทิ้งขยะประเภทนี้โดยเฉพาะ (ตามห้างสรรพสินค้า หรือจุดรับของเขต/เทศบาล)
บทสรุป: ลองปลุกชีพดูก่อน...แต่ "ความปลอดภัย" ต้องมาก่อนเสมอ!
การเอากลับมาชาร์จพาวเวอร์แบงค์เก่าที่ไม่ได้ใช้นาน สามารถทำได้ครับ และมีโอกาสที่จะกลับมาใช้งานได้ ถ้าสภาพมันยังดีอยู่ แค่ทำตามขั้นตอน เช็คสภาพภายนอก (ไม่บวม!) -> ทำความสะอาดพอร์ต -> ใช้ที่ชาร์จดีๆ -> แล้วลองชาร์จทิ้งไว้นานๆ (ในที่ปลอดภัย)
แต่ถ้ามันแสดง "สัญญาณอันตราย" (โดยเฉพาะอาการบวม) ออกมาเมื่อไหร่ ให้ตัดใจแล้วบอกลาน้องไปเถอะครับ การลงทุนซื้อพาวเวอร์แบงค์ใหม่ที่มีมาตรฐาน มอก. ดีๆ สักอัน ปลอดภัยและสบายใจกว่าการเสี่ยงใช้ของเก่าที่แบตเตอรี่อาจจะพร้อมสร้างปัญหาได้ทุกเมื่อนะครับ!