วิธีตรวจสอบว่าโทรศัพท์ของคุณรองรับการชาร์จเร็วสูงสุดกี่วัตต์
การทราบว่าสมาร์ทโฟนของคุณรองรับการชาร์จไฟได้สูงสุดกี่วัตต์ (W)
เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้คุณสามารถเลือกซื้อหัวชาร์จและสายชาร์จที่เหมาะสมและใช้งานฟีเจอร์ชาร์จเร็วได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยมีหลายวิธีในการตรวจสอบดังนี้
1. ตรวจสอบจากหัวชาร์จ (Adapter) ที่มากับเครื่อง
วิธีที่ง่ายที่สุดคือการดูข้อมูลจำเพาะบนหัวชาร์จเดิมที่แถมมาในกล่องโทรศัพท์
มองหาค่าวัตต์ (W): ผู้ผลิตส่วนใหญ่มักจะพิมพ์กำลังไฟเป็นวัตต์ (W) ไว้อย่างชัดเจน เช่น 35W, 45W, 65W หรือ 120W
คำนวณจากค่า V และ A: หากไม่มีค่าวัตต์บอกไว้ ให้มองหาค่า "Output" ซึ่งจะระบุค่าแรงดันไฟฟ้า (V) และกระแสไฟฟ้า (A) จากนั้นนำตัวเลขค่าสูงสุดมาคูณกัน ก็จะได้กำลังไฟเป็นวัตต์
สูตร: วัตต์ (W) = โวลต์ (V) × แอมป์ (A)
ตัวอย่าง: ถ้าหัวชาร์จระบุ Output: 9V/2A หมายความว่าหัวชาร์จนั้นจ่ายไฟได้สูงสุด 18W (9x2 = 18)
2. ตรวจสอบข้อมูลจำเพาะ (Specifications) ของโทรศัพท์
คุณสามารถค้นหาข้อมูลการรองรับกำลังไฟชาร์จสูงสุดของโทรศัพท์รุ่นที่คุณใช้ได้จากแหล่งข้อมูลทางการของผู้ผลิต
เว็บไซต์ของผู้ผลิต: เข้าไปที่เว็บไซต์ของแบรนด์โทรศัพท์ (เช่น Samsung, Apple, Xiaomi, OPPO) แล้วค้นหารุ่นโทรศัพท์ของคุณ ในหน้าข้อมูลจำเพาะ (Specs) มักจะระบุเทคโนโลยีการชาร์จและกำลังไฟสูงสุดที่รองรับไว้อย่างชัดเจนในหัวข้อ "แบตเตอรี่" หรือ "การชาร์จ"
คู่มือการใช้งาน: ข้อมูลนี้อาจมีระบุไว้ในคู่มือการใช้งานที่มาพร้อมกับกล่องโทรศัพท์
รีวิวจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ: เว็บไซต์ข่าวเทคโนโลยีและรีวิวมือถือที่น่าเชื่อถือต่างๆ มักจะให้ข้อมูลส่วนนี้ไว้อย่างละเอียด
3. สังเกตสัญลักษณ์ขณะชาร์จ
โทรศัพท์บางรุ่นจะแสดงสัญลักษณ์หรือข้อความพิเศษบนหน้าจอเมื่อทำการชาร์จด้วยหัวชาร์จและสายที่รองรับการชาร์จเร็ว เช่น
มีข้อความขึ้นว่า "กำลังชาร์จด่วน" (Fast Charging) หรือ "การชาร์จเร็วพิเศษ" (Super Fast Charging)
มีสัญลักษณ์พิเศษปรากฏขึ้น เช่น รูปสายฟ้าสองอัน หรือมีวงกลมล้อมรอบสัญลักษณ์สายฟ้า
4. ใช้แอปพลิเคชันตรวจสอบ (เป็นวิธีวัดผล ณ ขณะนั้น)
คุณสามารถใช้แอปพลิเคชันเพื่อวัดกระแสไฟที่กำลังชาร์จเข้าสู่แบตเตอรี่ได้แบบเรียลไทม์ แอปเหล่านี้จะเป็นการประเมินความเร็วในการชาร์จ ณ เวลานั้นๆ ซึ่งอาจไม่เท่ากับค่าสูงสุดที่เครื่องรองรับเสมอไป เนื่องจากความเร็วในการชาร์จจะลดลงเมื่อแบตเตอรี่ใกล้เต็ม
ตัวอย่างแอปพลิเคชัน: Ampere, Charge Meter
วิธีการ: ติดตั้งแอปและเสียบสายชาร์จ แอปจะแสดงค่ากระแสไฟ (mA) และแรงดันไฟ (V) ที่กำลังชาร์จเข้า คุณสามารถนำค่าทั้งสองมาคูณกันเพื่อคำนวณเป็นวัตต์ได้ (mW) แล้วหารด้วย 1000 เพื่อแปลงเป็นวัตต์ (W)
ข้อควรรู้:
เพื่อให้ได้ความเร็วในการชาร์จสูงสุด ควรใช้ทั้งหัวชาร์จและสายชาร์จที่รองรับมาตรฐานการชาร์จเร็วเดียวกันกับโทรศัพท์ของคุณ และโดยทั่วไปแล้วโทรศัพท์จะชาร์จเร็วที่สุดในช่วงที่แบตเตอรี่เหลือน้อย (เช่น ต่ำกว่า 50%) และจะค่อยๆ ลดความเร็วลงเมื่อแบตเตอรี่ใกล้เต็มเพื่อถนอมสุขภาพของแบตเตอรี่