การเลือกซื้อหัวชาร์จ หรือ อะแดปเตอร์ (Adapter) สำหรับ iPhone เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะส่งผลโดยตรงต่อความเร็วในการชาร์จ ความปลอดภัยของตัวเครื่อง iPhone และความปลอดภัยของผู้ใช้งานเอง ควรพิจารณาปัจจัยสำคัญต่างๆ ดังนี้ครับ
วีธีการเลือกซื้อหัวชาร์จไอโฟน
1.ตรวจสอบรุ่น iPhone และพอร์ตที่รองรับ
- iPhone รุ่นใหม่ (iPhone 15 Series ขึ้นไป): ใช้พอร์ต USB-C ที่ตัวเครื่อง คุณจำเป็นต้องใช้หัวชาร์จที่มีพอร์ต USB-C และสายชาร์จแบบ USB-C to USB-C
- iPhone รุ่นเก่า (iPhone 14 Series และรุ่นก่อนหน้าที่มีพอร์ต Lightning): หากต้องการชาร์จเร็ว (Fast Charging) คุณต้องใช้หัวชาร์จที่มีพอร์ต USB-C ร่วมกับสาย USB-C to Lightning (ที่ได้รับการรับรอง MFi) หากใช้หัวชาร์จแบบเก่าที่เป็นพอร์ต USB-A จะเป็นการชาร์จแบบปกติ (Standard Charging) ซึ่งช้ากว่า
ข้อควรรู้ การใช้หัวชาร์จ USB-C และสาย USB-C to Lightning สามารถชาร์จเร็วให้กับ iPhone รุ่นเก่าได้ตั้งแต่ iPhone 8 และ iPhone X เป็นต้นไป
2.กำลังไฟ (วัตต์ - Wattage) และเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว
- ความเร็วในการชาร์จ: กำลังไฟที่ระบุเป็นวัตต์ (W) มีผลโดยตรงต่อความเร็ว หัวชาร์จ 5W แบบเก่า (USB-A) จะชาร์จช้าที่สุด
- Fast Charging: iPhone รุ่นใหม่ๆ (ตั้งแต่ iPhone 8/X) รองรับการชาร์จเร็ว ซึ่ง Apple ใช้มาตรฐาน USB Power Delivery (USB PD)
คำแนะนำกำลังไฟ (Wattage Recommendation):
- อย่างน้อย 20W: เป็นกำลังไฟที่ Apple แนะนำอย่างเป็นทางการสำหรับ Fast Charging iPhone รุ่นปัจจุบัน สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0% ถึงประมาณ 50% ได้ในเวลาประมาณ 30 นาที (สำหรับ iPhone ส่วนใหญ่)
- 30W ขึ้นไป: อาจให้ความเร็วเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วงต้นของการชาร์จสำหรับ iPhone บางรุ่น แต่ประโยชน์หลักคือสามารถใช้ชาร์จอุปกรณ์อื่นที่ต้องการกำลังไฟสูงกว่า เช่น iPad หรือ MacBook ได้ด้วยหัวชาร์จเดียวกัน ไม่ต้องกังวลว่าวัตต์สูงเกินไปจะทำอันตราย iPhone เพราะตัว iPhone จะดึงกระแสไฟสูงสุดเท่าที่ตัวเองรับไหว ตราบใดที่หัวชาร์จนั้นได้มาตรฐานและปลอดภัย
ข้อควรรู้ ควรเลือกหัวชาร์จที่ระบุว่ารองรับมาตรฐาน USB PD อย่างชัดเจน
3.ความปลอดภัยและการรับรองมาตรฐาน
- สำคัญที่สุด: หัวชาร์จที่ไม่ได้มาตรฐานอาจก่อให้เกิดความร้อนสูงเกินไป ไฟฟ้าลัดวงจร ทำให้อุปกรณ์เสียหาย หรือแม้กระทั่งเกิดเพลิงไหม้ได้
- มองหาสัญลักษณ์มาตรฐาน:
- มอก. (TISI): สำหรับผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในประเทศไทย เป็นเครื่องหมายบังคับสำหรับอะแดปเตอร์แปลงไฟ แสดงว่าผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
- มาตรฐานสากล: เช่น CE (มาตรฐานยุโรป), FCC (มาตรฐานสหรัฐอเมริกา), UL Listed (มาตรฐานความปลอดภัยจากองค์กรอิสระ) การมีสัญลักษณ์เหล่านี้บ่งบอกว่าผลิตภัณฑ์ผ่านการทดสอบตามเกณฑ์ความปลอดภัยสากล
4.MFi (Made for iPhone/iPad/iPod):
- ข้อควรทราบ: การรับรอง MFi นั้นมีไว้สำหรับ อุปกรณ์เสริมที่เชื่อมต่อโดยตรงกับพอร์ต Lightning หรือ Dock Connector เช่น สายชาร์จ หูฟัง เคสแบตเตอรี่ ไม่ใช่สำหรับตัวหัวชาร์จ USB โดยตรง
- ความเชื่อมโยง: อย่างไรก็ตาม การเลือกหัวชาร์จจาก Apple เอง หรือ แบรนด์ที่ผลิตอุปกรณ์เสริม MFi ที่น่าเชื่อถือ (เช่น Belkin, Anker, Mophie) มักจะหมายถึงการได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ สร้างตามมาตรฐานที่เข้ากันได้ดีกับอุปกรณ์ Apple และให้ความสำคัญกับความปลอดภัย
- สำหรับสายชาร์จ USB-C to Lightning: การเลือกสายที่ ได้รับการรับรอง MFi นั้น สำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพ ความเข้ากันได้ และความปลอดภัยสูงสุด
ข้อควรรู้ หัวชาร์จราคาถูกผิดปกติ ของปลอม ของลอกเลียนแบบ หรือไม่มีแบรนด์/ไม่มีเครื่องหมายรับรองใดๆ เด็ดขาด ความเสี่ยงไม่คุ้มค่า
5.จำนวนพอร์ตและประเภทพอร์ต (Number and Type of Ports):
- พิจารณาว่าต้องการชาร์จกี่อุปกรณ์พร้อมกัน หัวชาร์จบางรุ่นมีหลายพอร์ต (เช่น USB-C สองพอร์ต หรือ USB-C + USB-A) ซึ่งสะดวกหากคุณมีอุปกรณ์หลายชิ้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากำลังไฟรวม (Total Output) และกำลังไฟที่จ่ายให้แต่ละพอร์ต (Output per Port) เพียงพอต่อความต้องการ
6.เทคโนโลยีเพิ่มเติม
- GaN (Gallium Nitride): เป็นเทคโนโลยีสารกึ่งตัวนำที่ช่วยให้ผู้ผลิตสร้างหัวชาร์จที่มีขนาดเล็กลง น้ำหนักเบาลง และมีประสิทธิภาพในการจัดการความร้อนได้ดีขึ้น แม้จะจ่ายไฟได้สูงก็ตาม หากต้องการหัวชาร์จที่พกพาสะดวก การเลือกหัวชาร์จแบบ GaN ก็เป็นตัวเลือกที่ดี
6.สายชาร์จ :
- อย่าลืมว่าต้องมีสายชาร์จที่เหมาะสมกับหัวชาร์จและ iPhone ของคุณ (USB-C to USB-C หรือ USB-C to Lightning)
คุณภาพของสายชาร์จก็สำคัญไม่แพ้หัวชาร์จ โดยเฉพาะสาย USB-C to Lightning ควรเลือกที่ได้รับการรับรอง MFi