สายของทางร้าน ทนทานต่อการหักงอ ผ่านการทดสอบที่มากกว่า 10,000ครั้ง แกนลวดทองแดงหนาพิเศษ ทนทาน และความเสถียรที่มากกว่า รองรับเทคโนโลยีการชาร์จ PD , QC รองรับการถ่ายโอนข้อมูลผ่านสายชาร์จด้วยความเร็วสูงสุด 480Mbps รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto มาพร้อมประกันศูนย์ไทยที่ให้มากถึง 2 ปีอีกด้วย พร้อม ราคาที่ไม่แพง

สายชาร์จมือถือ OPPO คู่ใจเกิดหาย ชำรุด หรือแค่อยากมีเส้นสำรองไว้ใช้งาน หลายคนอาจคิดว่า "แค่ซื้อสาย USB Type-C ยี่ห้อไหนก็ได้มาเสียบแทนก็ได้มั้ง? ที่เราเจอผู้ใช้ OPPO มามากมาย ขอบอกเลยว่า นั่นคือความเข้าใจที่ผิดอย่างแรง! และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้คุณชาร์จมือถือ OPPO ได้ช้า ไม่เต็มสปีดเหมือนเดิม

วีธีการเลือกซื้อ สายชาร์จ oppo

1. "สาย OPPO ไม่เหมือนใคร!" ความลับที่ซ่อนอยู่ในสาย VOOC/SuperVOOC

สิ่งที่คุณต้องเข้าใจเป็นอันดับแรกคือ: สายชาร์จที่รองรับ VOOC/SuperVOOC ไม่ใช่สาย USB มาตรฐานทั่วไป แม้ว่าหัวต่อฝั่งที่เสียบเข้ามือถือจะเป็น USB-C เหมือนกันก็ตาม

ทำไมถึงต่าง?

• โครงสร้างภายใน: สาย VOOC/SuperVOOC มีการ เดินสายไฟภายในที่แตกต่าง และมักใช้ ตัวนำที่มีคุณภาพสูงกว่า เพื่อรองรับ "กระแสไฟ (A - แอมป์) ที่สูงกว่า" มาตรฐาน USB ปกติได้อย่างปลอดภัย (Expertise)
• จำนวนพิน (Pins) และชิปพิเศษ: ในบางเวอร์ชัน โดยเฉพาะ SuperVOOC วัตต์สูงๆ สายอาจมี จำนวนพินที่หัวต่อมากกว่า หรือมี ชิปพิเศษ (Microcontroller) ฝังอยู่ในหัวสาย เพื่อ "สื่อสาร" กับหัวชาร์จและมือถือ ในการควบคุมการจ่ายไฟที่ซับซ้อนและรวดเร็วได้อย่างปลอดภัย (Expertise)
• ผลลัพธ์: หากไม่มีโครงสร้างและการสื่อสารเฉพาะนี้ ระบบ VOOC/SuperVOOC จะ ไม่ทำงาน และมือถือจะเปลี่ยนไปรับการชาร์จในโหมดธรรมดาที่ช้าลงมากทันที

2. สังเกต "สายแท้" หรือ "สายรองรับ VOOC" ดูตรงไหน?

การแยกแยะสาย VOOC/SuperVOOC ที่ถูกต้องออกจากสาย USB ทั่วไป ต้องอาศัยการสังเกต:

ดูที่บรรจุภัณฑ์/รายละเอียดสินค้า:

• ต้องระบุชัดเจน! ว่า "รองรับ VOOC" หรือ "รองรับ SuperVOOC"
• ต้องระบุ "กำลังไฟ (W) สูงสุด" ที่รองรับ ให้ตรงกับหัวชาร์จและมือถือของคุณ (เช่น รองรับ 30W VOOC, 65W SuperVOOC, 80W SuperVOOC) (สำคัญมาก!)

ลักษณะทางกายภาพ (ของแท้จาก OPPO):

• ความหนา: มักจะดู หนาและแข็งแรงกว่า สาย USB ทั่วไปเล็กน้อย
• โลโก้: มีโลโก้ OPPO บนหัวสายอย่างชัดเจน
• สีภายในหัวต่อ: ภายในพอร์ต USB-A หรือ USB-C ของสายแท้ มักจะมี แถบพลาสติกสีเขียว หรือ สีเหลือง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์
• คุณภาพงานประกอบ: ดูเรียบร้อย แข็งแรง ไม่มีตำหนิ

เปรียบเทียบกับสายที่มากับเครื่อง: ถ้าคุณยังมีสายเส้นเก่าที่มาพร้อมกล่อง ลองนำมาเปรียบเทียบดู จะช่วยให้เห็นความแตกต่างได้ง่ายขึ้น

3."วัตต์" สำคัญ! สายต้องรองรับ "กำลังไฟ" ของระบบชาร์จ

สายแต่ละเส้นถูกออกแบบมาให้รองรับ "กระแสไฟ (A)" สูงสุดได้ไม่เท่ากัน ซึ่งสัมพันธ์โดยตรงกับ "กำลังไฟ (W)" ของระบบ VOOC/SuperVOOC

• SuperVOOC (ตั้งแต่ 50W ขึ้นไป): ต้องการสายที่รองรับ กระแสไฟสูงมาก (เช่น 5A, 6A, 6.5A หรือสูงกว่านั้นสำหรับรุ่น 80W+)
• VOOC (รุ่นเก่า/30W): อาจใช้กระแสไฟต่ำกว่า แต่ก็ยังต้องการสายที่ออกแบบมาเฉพาะ
• ผลกระทบถ้าสายรองรับวัตต์ต่ำไป?: สมมติคุณมีหัวชาร์จและมือถือ 65W SuperVOOC แต่ดันไปซื้อ "สาย SuperVOOC" ที่ระบุว่ารองรับแค่ 30W มาใช้ -> ระบบจะชาร์จให้คุณได้เร็วสุดแค่ 30W เท่านั้น! เพราะสายเป็นคอขวด ไม่สามารถส่งกระแสไฟสูงระดับ 65W ได้อย่างปลอดภัย (Trustworthiness) ดังนั้น ต้องเลือกสายที่ระบุวัตต์ให้ตรงกับระดับความเร็วที่คุณต้องการ!

4. ผลเสียร้ายแรงของการใช้ "สายผิดประเภท" หรือ "ของปลอม"

การพยายามประหยัดด้วยการใช้สาย USB ทั่วไป หรือสายราคาถูกที่ "อ้างว่า" รองรับ VOOC แต่ไม่ได้มาตรฐาน มีความเสี่ยงสูงมาก:

• ชาร์จช้า: เสียความสามารถ VOOC/SuperVOOC ไปเลย กลับไปชาร์จแบบธรรมดา 5W-10W
• ชาร์จไม่เสถียร: ไฟอาจเข้าบ้างไม่เข้าบ้าง หรือชาร์จติดๆ ดับๆ
• ความร้อนสูงผิดปกติ: สายที่ไม่ได้ออกแบบมารับกระแสสูง อาจร้อนจัดขณะชาร์จ ซึ่งอันตราย
• อายุการใช้งานสั้น: พังเร็ว เสียเงินซ้ำซ้อน
• ความเสียหายต่ออุปกรณ์: (ร้ายแรงที่สุด) การจ่ายไฟที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เสถียร อาจส่งผลเสียต่อแบตเตอรี่ หรือทำลายพอร์ตชาร์จ/เมนบอร์ดของมือถือ OPPO ราคาแพงของคุณได้!
• อาจเกิดไฟไหม้/ไฟฟ้าลัดวงจร: ในกรณีที่สายคุณภาพต่ำมากจริงๆ