แชร์

เลือกพาวเวอร์แบงค์ 'กี่แอมป์' ดี?

อัพเดทล่าสุด: 25 มิ.ย. 2025
22 ผู้เข้าชม

จะซื้อพาวเวอร์แบงค์ใหม่...เลือกกี่แอมป์ดี?" "อันนี้ 2 แอมป์ อันนั้น 3 แอมป์ มันต่างกันยังไง?" เชื่อเลยว่านี่คือคำถามที่เพื่อนๆ หลายคนใช้ถามเวลาจะเลือกซื้อแบตสำรองคู่ใจใช่ไหมครับ? ซึ่งมันก็ไม่ผิดนะ! แต่มันอาจจะยัง "ไม่ครบถ้วน" จนทำให้เราสับสนและเลือกซื้อพลาดได้!

ใจเย็นๆ ก่อนเพื่อน! ในฐานะ คนที่คลุกคลีกับอุปกรณ์พวกนี้ และตอบคำถามนี้มานับครั้งไม่ถ้วน  วันนี้เราจะมา "เคลียร์" ให้ชัดๆ ไปเลยว่า เวลาเลือกพาวเวอร์แบงค์จริงๆ แล้ว ไอ้คำว่า "แอมป์" ที่เราพูดถึงกันเนี่ย มันมีอยู่ 2 ความหมายนะ! แล้วเราควรจะดูที่ "ตัวเลข" ไหนกันแน่ ถึงจะได้พาวเวอร์แบงค์ที่ "อึด" ถูกใจ และ "ชาร์จไว" ทันใช้! ด้วยข้อมูลที่ ถูกต้องและเชื่อถือได้ ครับ

Part 1: "แอมป์" vs "มิลลิแอมป์-ชั่วโมง (mAh)": รู้จักให้ถูกตัวก่อน!

นี่คือจุดที่คนสับสนกันมากที่สุด! เราต้องแยก "แอมป์" สองตัวนี้ออกจากกันก่อน:

1. mAh (มิลลิแอมป์-ชั่วโมง): "ความจุ" หรือ "ความอึด" ของพาวเวอร์แบงค์

  • เปรียบเทียบง่ายๆ: มันคือ "ขนาดของถังน้ำมัน" ของพาวเวอร์แบงค์!
  • บอกอะไรเรา?: บอก "ปริมาณพลังงาน" ที่มันสามารถเก็บไว้ได้ ยิ่งตัวเลข mAh เยอะ ก็ยิ่งชาร์จมือถือเราได้หลายรอบ
  • นี่แหละ! คือสิ่งที่คนส่วนใหญ่ "ตั้งใจจะถาม" เวลาพูดว่า "กี่แอมป์ดี?"

2. A (แอมป์): "ความแรง" หรือ "ความเร็ว" ในการจ่ายไฟ

  • เปรียบเทียบง่ายๆ: มันคือ "ขนาดของหัวจ่ายน้ำมัน" ที่ปั๊มน้ำมัน!
  • บอกอะไรเรา?: บอก "ความแรงของกระแสไฟฟ้า" ที่มันสามารถ "จ่ายออก" ไปยังมือถือเราได้ ยิ่ง
  • ค่า A สูง (เมื่อใช้กับแรงดัน V ที่เหมาะสม) ก็ยิ่งมีโอกาส "ชาร์จได้เร็วขึ้น"
    สรุปง่ายๆ:
    mAh = ความจุ (เก็บไฟได้เยอะแค่ไหน?)
    A = ความแรง (จ่ายไฟได้แรงแค่ไหน?)

Part 2: งั้น...ต้องเลือก "ความจุ (mAh)" เท่าไหร่ถึงจะ "พอดี"?

โอเค! มาตอบคำถามที่แท้จริงกัน ว่าควรเลือก "ความอึด" แค่ไหนดี?

  • ~10,000 mAh: "ขนาดมาตรฐาน" พกพาง่าย
    เหมาะกับ: ใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน, พกติดกระเป๋าไปทำงาน/เรียน, เดินทางสั้นๆ
    ชาร์จได้ประมาณ: สมาร์ทโฟนทั่วไปได้ 1.5 - 2.5 รอบ (ขึ้นอยู่กับขนาดแบตมือถือ)
    ข้อดี: ขนาดไม่ใหญ่มาก น้ำหนักกำลังดี ไม่เป็นภาระกระเป๋า
  • ~20,000 mAh: "ขนาดสำหรับสายอึด"
    เหมาะกับ: คนที่ใช้งานมือถือหนักๆ ทั้งวัน, เดินทางหลายวัน, มีอุปกรณ์หลายชิ้น (มือถือ, หูฟัง), หรือต้องการชาร์จแท็บเล็ต
    ชาร์จได้ประมาณ: สมาร์ทโฟนทั่วไปได้ 4 - 5+ รอบ
    ข้อสังเกต: ขนาดจะใหญ่และหนักขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
    มากกว่า 20,000 mAh: "ขนาดสำหรับสายเดินทางไกล หรือชาร์จโน้ตบุ๊ก"
    เหมาะกับ: เดินทางไกลหลายวัน, เข้าป่าตั้งแคมป์, หรือใช้ชาร์จโน้ตบุ๊ก (ต้องดูเรื่องวัตต์ (W) ประกอบด้วย)
  • ข้อควรระวัง: เช็คข้อกำหนดของสายการบิน! ส่วนใหญ่ห้ามนำพาวเวอร์แบงค์ที่มีความจุ เกิน 32,000 mAh (หรือ 160 Wh) ขึ้นเครื่องบินนะครับ!

 อย่าลืมนะว่า 10,000 mAh ไม่ได้แปลว่าชาร์จได้ 10,000 mAh เป๊ะๆ นะครับ! มันมีการสูญเสียพลังงานตอน "แปลงแรงดันไฟ" (จาก 3.7V เป็น 5V) ด้วย ทำให้ความจุที่ใช้ได้จริงจะอยู่ที่ประมาณ 60-70% ของตัวเลขที่โฆษณา ซึ่งเป็นเรื่องปกติครับ

Part 3: แล้ว "แอมป์ (A)" ล่ะ? ต้องดูไหม? (ควรดูที่ "วัตต์ (W)" จะง่ายกว่า!)

มาถึงเรื่อง "ความเร็วชาร์จ" กันบ้าง! การดูแค่ "แอมป์" อย่างเดียวอาจจะงงๆ นิดหน่อย

แนะนำให้ดูที่ "วัตต์" (Watt - W) จะง่ายและชัดเจนที่สุด!
วัตต์ คืออะไร?: มันคือ "กำลังไฟรวม" ที่บอกถึงความเร็วในการชาร์จ (คำนวณง่ายๆ คือ W = V x A)
ทำยังไง?:
เช็คมือถือเราก่อน: ว่ารองรับ "ชาร์จเร็ว" (Fast Charging) กี่วัตต์ (W)? เช่น 18W, 25W, 33W, 45W
เลือกพาวเวอร์แบงค์: ที่ช่องจ่ายไฟ (Output) สามารถจ่ายไฟได้ "เท่ากับ" หรือ "สูงกว่า" ที่มือถือเรารองรับ
ดูมาตรฐานชาร์จเร็วด้วย: พาวเวอร์แบงค์ต้องรองรับมาตรฐานเดียวกับมือถือเราด้วยนะ (เช่น PD - Power Delivery หรือ QC - Quick Charge) ถึงจะ "คุยกันรู้เรื่อง" และชาร์จเร็วได้จริง
ตัวอย่าง:

มือถือรองรับชาร์จเร็ว PD 25W -> ควรเลือกพาวเวอร์แบงค์ที่มีช่อง Output เขียนว่า "PD 25W" (หรือสูงกว่า เช่น PD 30W, PD 45W)
ถ้าเอาพาวเวอร์แบงค์ที่จ่ายไฟแค่ 10W (5V/2A) ไปชาร์จ -> มันก็จะชาร์จได้แค่ 10W ครับ ช้าเหมือนเดิม

Part 4: อย่าลืม "มอก." เพื่อความปลอดภัย! (เรื่องนี้สำคัญสุดๆ!)

 ไม่ว่าจะกี่ mAh หรือกี่วัตต์ สิ่งที่พาวเวอร์แบงค์ที่ขายในประเทศไทย "ต้องมี" คือ เครื่องหมาย "มอก." (TISI - มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม)
ทำไมต้องมี?: เป็นเครื่องหมายที่รับรองว่าพาวเวอร์แบงค์นั้นได้ผ่าน "การทดสอบความปลอดภัยพื้นฐาน" แล้ว ช่วยลดความเสี่ยงจากแบตเตอรี่ที่ไม่ได้คุณภาพ, การลัดวงจร, หรือไฟไหม้
คำเตือนจากใจ: อย่าเสี่ยงกับพาวเวอร์แบงค์ราคาถูกมากๆ ที่ไม่มีแบรนด์ หรือไม่มี มอก. เด็ดขาด! อาจจะอันตรายถึงชีวิตและทรัพย์สินได้ ไม่คุ้มเลยครับ!

บทสรุป: ไม่ใช่แค่ "กี่แอมป์" แต่ต้องดู "mAh + วัตต์ + มอก."!

สรุปง่ายๆ ให้จำขึ้นใจ เวลาจะเลือกซื้อพาวเวอร์แบงค์ครั้งต่อไป ให้ถามตัวเอง (หรือถามคนขาย) ด้วย 3 คำถามนี้ครับ:

"ความจุ (แบตอึดแค่ไหน?)" -> ดูที่ "mAh" (10,000 mAh คือมาตรฐานพกพาง่าย)
"ความเร็วชาร์จ (ชาร์จไวแค่ไหน?)" -> ดูที่ "วัตต์ (W)" และ "มาตรฐานชาร์จเร็ว (PD/QC)" ให้ตรงกับมือถือเรา
"ความปลอดภัย (ไว้ใจได้ไหม?)" -> ดูที่ "แบรนด์น่าเชื่อถือ" และ "ต้องมีเครื่องหมาย มอก."
แค่เช็คให้ครบ 3 ข้อนี้ คุณก็จะได้พาวเวอร์แบงค์ที่ "ใช่" สำหรับคุณจริงๆ ตอบโจทย์ทั้งความอึด ความเร็ว และความปลอดภัย ให้คุณใช้ชีวิตดิจิทัลได้แบบไม่มีสะดุดแน่นอนครับ!


บทความที่เกี่ยวข้อง
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ