ชาร์จมือถือข้ามคืน แบตจะเสื่อมไหม ลองมาดูกัน
เสียบสายชาร์จมือถือทิ้งไว้ทั้งคืน ตื่นเช้ามาแบตเต็ม 100% สบายใจ...แต่เอ๊ะ! ทำแบบนี้บ่อยๆ แบตมันจะเสื่อมเร็วกว่าเดิมหรือเปล่านะ?" "บางคนก็ว่าชาร์จเต็มแล้วต้องรีบถอด ไม่งั้นแบตบวม!" เชื่อว่านี่คือคำถามคาใจ และความเชื่อที่ส่งต่อกันมานานมากสำหรับคนใช้สมาร์ทโฟนใช่ไหมครับ?
สมัยก่อนนู้นนน...ที่ยังใช้แบตเตอรี่แบบเก่า (นิกเกิลแคดเมียม) การชาร์จข้ามคืนอาจจะมีผลเสียจริงๆ แต่เทคโนโลยีมันพัฒนาไปไกลแล้วครับ! ในฐานะ คนที่คลุกคลีกับเรื่องแบตเตอรี่มือถือ และเข้าใจเทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นอย่างดี วันนี้เราจะมา "เคลียร์คัท" ทุกความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการชาร์จแบตมือถือข้ามคืน พร้อมอธิบายแบบง่ายที่สุด สไตล์เพื่อนคุยกัน ให้คุณ เข้าใจและใช้งานแบตเตอรี่ได้อย่างถูกต้อง ถนอมแบตฯ สุดรักให้อยู่กับเราไปนานๆ ครับ!
รู้จัก "แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน" (Li-ion) ในมือถือเรากันก่อน (นิดนึงนะ!)
แบตเตอรี่ในสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ที่เราใช้กันทุกวันนี้เป็นแบบ ลิเธียมไอออน (Lithium-ion) หรือ ลิเธียมโพลิเมอร์ (Li-Po) ซึ่งมันมี "นิสัย" และ "ความฉลาด" แตกต่างจากแบตฯ ยุคคุณปู่เยอะเลยครับ:
ไม่มี "Memory Effect": ไม่เหมือนแบตฯ เก่า ที่ต้องใช้ให้หมดเกลี้ยงแล้วค่อยชาร์จ แบตฯ ลิเธียมฯ อยากจะชาร์จตอนไหนก็ชาร์จได้ ไม่ต้องรอให้แบตเหลือน้อย
มี "วงจรควบคุม" อัจฉริยะ: ทั้งในตัวแบตเตอรี่เอง, ในมือถือ, และในหัวชาร์จดีๆ จะมีชิปคอยควบคุมการจ่ายไฟ ป้องกันการชาร์จเกิน (Overcharge) หรือความร้อนสูงเกินไป
แล้วตกลง "ชาร์จมือถือข้ามคืน" แบตจะเสื่อมจริงไหม
คำตอบสั้นๆ แบบฟันธง (สำหรับมือถือและหัวชาร์จ "สมัยใหม่" ที่ได้มาตรฐาน): "ไม่เสื่อม" หรือ "เสื่อมน้อยมากจนแทบไม่มีนัยสำคัญ" ครับ!
ทำไมล่ะ? เพราะมือถือและหัวชาร์จสมัยนี้มัน "ฉลาด" ครับ!
เมื่อแบตเตอรี่ชาร์จใกล้เต็ม (เช่น 80-90%): ระบบจะลดความเร็วในการชาร์จลง เพื่อลดความร้อนและแรงดันที่ตัวแบตเตอรี่
เมื่อแบตเตอรี่เต็ม 100%: ระบบ "จะตัดการจ่ายไฟเข้าแบตเตอรี่โดยตรง" โดยอัตโนมัติ! ถึงแม้สัญลักษณ์ชาร์จจะยังขึ้นอยู่ หรือเรายังเสียบสายคาไว้ก็ตาม ไฟฟ้าที่เข้ามาจะแค่เลี้ยงให้เครื่องเปิดติดอยู่ หรือใช้ในปริมาณน้อยมากๆ เพื่อรักษาระดับแบตฯ ให้เต็ม แต่ไม่ได้ "อัด" ไฟเข้าแบตฯ ตลอดเวลาเหมือนสมัยก่อนแล้ว
เปรียบเทียบง่ายๆ: เหมือนเราเติมน้ำใส่แก้ว พอเต็มแล้วเราก็ "ปิดก๊อก" ถึงแม้จะยังวางแก้วไว้ใต้ก๊อก น้ำก็ไม่ล้นออกมา (ยกเว้นก๊อกเสีย หรือระบบควบคุมพัง ซึ่งพบน้อยมากในอุปกรณ์มาตรฐาน)
ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการชาร์จแบตฯ ที่ต้อง "ลบทิ้ง" ไปเลย!
1: "ต้องใช้แบตให้หมดเกลี้ยง (0%) ก่อนค่อยชาร์จ ไม่งั้นแบตจะจำค่าผิด"
Fact: นั่นมันแบตฯ ยุคเก่าครับ! แบตฯ ลิเธียมฯ ไม่ชอบให้หมดเกลี้ยงบ่อยๆ เพราะจะทำให้เซลล์แบตฯ "เครียด" และเสื่อมเร็วขึ้นด้วยซ้ำ ชาร์จตอนเหลือ 20-30% ได้เลย สบายๆ
2: "ชาร์จเต็ม 100% แล้วต้องรีบถอดสายทันที ไม่งั้นแบตบวม/ระเบิด"
Fact: อย่างที่บอกไป มือถือสมัยใหม่มีระบบตัดไฟเมื่อเต็ม 100% แล้วครับ การเสียบทิ้งไว้บ้าง (เช่น ตอนนอน) ไม่ได้อันตรายขนาดนั้น (แต่ก็มีข้อควรระวังเรื่องความร้อนนิดหน่อย เดี๋ยวว่ากัน)
3: "ห้ามใช้มือถือขณะชาร์จ เดี๋ยวแบตระเบิด"
Fact: ใช้ได้ครับ แต่! ถ้าใช้งานหนักๆ (เช่น เล่นเกมกราฟิกสูงๆ) ไปด้วย ชาร์จไปด้วย เครื่องจะ "ร้อนจัด" ซึ่งความร้อนนี่แหละตัวการทำแบตเสื่อมเร็ว (ไม่ใช่การระเบิดโดยตรง ถ้าอุปกรณ์ได้มาตรฐาน) ถ้าจะใช้เบาๆ เช็คโซเชียล ตอบแชท ก็พอได้ แต่ถ้าจะเล่นเกมหนักๆ พักก่อนดีกว่า
4: "ชาร์จครั้งแรกต้องชาร์จทิ้งไว้ 8-12 ชั่วโมง"
Fact: อันนี้ก็ความเชื่อสมัยแบตฯ นิกเกิลเหมือนกัน แบตฯ ลิเธียมฯ สมัยนี้ ไม่ต้องทำแบบนั้นแล้วครับ ชาร์จเต็มก็ใช้งานได้เลย
แล้วอะไรล่ะ ที่ "ทำร้าย" แบตฯ จริงๆ?
ถึงชาร์จข้ามคืนจะไม่ใช่ปัญหาหลัก แต่ก็มีปัจจัยอื่นที่ทำให้แบตฯ เสื่อมเร็วกว่าที่ควร:
1. "ความร้อน" คือศัตรูตัวฉกาจที่สุด!
ไม่ว่าจะร้อนจากการชาร์จ (โดยเฉพาะชาร์จเร็ววัตต์สูงๆ), ร้อนจากการใช้งานหนัก, หรือร้อนจากสภาพแวดล้อม (วางตากแดด, ในรถร้อนๆ) ความร้อนทำให้สารเคมีในแบตฯ เสื่อมสภาพเร็วมาก!
2. การปล่อยให้แบตเตอรี่ "หมดเกลี้ยง (0%)" บ่อยๆ และเป็นเวลานานๆ
อย่างที่บอกไป มันทำให้เซลล์แบตฯ เครียดและเสื่อมเร็วขึ้น
3. การใช้ "หัวชาร์จ" และ "สายชาร์จ" ที่ "ไม่ได้มาตรฐาน" หรือ "ของปลอม"
อันนี้อันตรายมาก! อาจจะจ่ายไฟไม่นิ่ง ไฟเกิน ไฟกระชาก ทำลายทั้งแบตฯ และวงจรในมือถือได้ ควรใช้ของแท้ หรือยี่ห้อที่น่าเชื่อถือและได้มาตรฐาน (เช่น มี มอก. สำหรับหัวชาร์จ, MFi สำหรับสาย iPhone) เท่านั้น!
4.การใช้งานจน "รอบการชาร์จ" (Charge Cycles) ครบกำหนด
อันนี้เป็นเรื่องปกติครับ แบตฯ ทุกก้อนมีอายุการใช้งานของมัน (เช่น 500-800 รอบการชาร์จ) พอใช้ไปเรื่อยๆ ความจุสูงสุดมันก็จะค่อยๆ ลดลงเป็นธรรมดา
เคล็ดลับ "ถนอมแบต" ให้อึดทน อยู่นานๆ (ง่ายๆ สไตล์คนรัก Gadget)
1.พยายามรักษาระดับแบตฯ ให้อยู่ในช่วง 20% - 80%: นี่คือ "โซนปลอดภัย" ที่แบตฯ ชอบที่สุด ถ้าทำได้จะดีมาก
2.อย่าปล่อยให้ต่ำกว่า 20% บ่อยๆ: เห็นเริ่มเหลืองๆ ก็หาที่ชาร์จได้แล้ว
3.ชาร์จถึง 80-90% ก็พอ (ถ้าไม่รีบ หรือไม่ได้จะใช้ยาวๆ ทั้งวัน): ไม่จำเป็นต้องรอให้เต็ม 100% เป๊ะๆ ทุกครั้ง
4.เปิดฟีเจอร์ "ชาร์จเพื่อถนอมแบตเตอรี่": มือถือส่วนใหญ่มีฟีเจอร์นี้ มันจะเรียนรู้พฤติกรรมการชาร์จของเรา (โดยเฉพาะตอนกลางคืน) แล้วจัดการให้แบตเต็มพอดีตอนเราตื่น ช่วยลดความเครียดให้แบตฯ ได้เยอะ
5.หลีกเลี่ยง "ความร้อน": อย่าชาร์จในที่ร้อนๆ, อย่าเล่นเกมหนักๆ ตอนชาร์จ, ถอดเคสหนาๆ ออกบ้างตอนชาร์จ
6.ใช้ "หัวชาร์จ" และ "สายชาร์จ" ที่ "มีคุณภาพ" และ "เหมาะสม" กับมือถือ: (สำคัญมาก!)
7.(ถ้าไม่ได้ใช้เครื่องนานๆ) ชาร์จแบตฯ ไว้ที่ประมาณ 50% ก่อนเก็บ: อย่าปล่อยให้หมดเกลี้ยงแล้วเก็บยาว
บทสรุป: ชาร์จข้ามคืน "ได้" แต่ "เข้าใจ" และ "ใส่ใจ" สักนิด ชีวิตแบตจะดีขึ้นเยอะ!
สรุปง่ายๆ เลยนะครับเพื่อนๆ: การ "ชาร์จมือถือทิ้งไว้ข้ามคืน" ด้วยอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานในปัจจุบัน "ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว" หรือ "ทำลายแบตเตอรี่" โดยตรงอีกต่อไปแล้ว เพราะมือถือเรามันฉลาดพอที่จะตัดไฟเมื่อเต็ม
แต่สิ่งที่ "ทำร้าย" แบตฯ จริงๆ คือ "ความร้อน", "การปล่อยให้แบตหมดเกลี้ยงบ่อยๆ", และ "การใช้อุปกรณ์ชาร์จที่ไม่ได้มาตรฐาน"
ดังนั้น แค่เรา ใส่ใจดูแล ปรับพฤติกรรมการชาร์จและการใช้งานเล็กๆ น้อยๆ ตามเคล็ดลับที่แนะนำไป แบตเตอรี่มือถือสุดที่รักของเราก็จะอยู่รับใช้เราไปได้อีกนานแสนนาน ไม่ต้องเสียเงินเปลี่ยนแบตฯ บ่อยๆ แน่นอนครับ!